รีวิว The Mummy หนัง Netflix น่าดู

รีวิว The Mummy 2017

รีวิว The Mummy หนัง Netflix น่าดู

รีวิว The Mummy เป็นหนัง Dark Universe กับ เดอะมัมมี่ที่กลับมาอีกครั้ง ของยูนิเวอร์ซัล ในการดูหนังในชีวิตประจำวันของเรา พบว่าเคยตื่นใจกับหนังสไตล์แอ็คชั่นผจญภัยจากมัมมี่ผีอียิปต์ที่สร้างออกมาเป็นไตรภาคอยู่ประมาณหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้ถึงขั้นประทับใจมากนักแต่ก็เป็นหนังที่อยู่ในความทรงจำ จนเมื่อได้รู้ข่าวว่า ทางค่ายหนังจะนำเอา The Mummy เต็มเรื่อง มาสร้างใหม่อีกครั้ง ซึ่งมาพร้อมกับตัวละครหลักใหม่ๆ ได้ดารานำแสดงเป็น Tom Cruise ผมนี่ตั้งตารอคอยเลย

แถมยังได้รู้มาอีกว่าทาง Universal ตั้งใจจะทำหนังที่มีแต่มหาวายร้ายในจักรวาลนั้นๆ และตั้งชื่อให้มันว่า Dark Universe ซึ่งเดอะมัมมี่จะเป็นเรื่องแรกเบิกยูนิเวิร์ส ที่จะพาเราไปพบกับปิศาจมัมมี่สาว และตัวละครใหม่ๆ เป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่ ดูหนังออนไลน์ จะพาเราไปพบกับปิศาจตัวอื่นๆใน The Mummy HD

รีวิว The Mummy พากย์ไทย

รีวิว The Mummy ขุมทรัพย์มัมมี่

The Mummy เรื่องย่อ ทหารอย่าง นิค มอร์ตัน (Tom Cruise) เหมือนว่าเขาจะเป็นทหารนอกกรอบ เขาไม่ทำตามหน้าที่ตัวเอง แต่กลับเอาเวลามาหาสมบัติ ได้ลายแทงมาก็พาเพื่อนซี้อย่าง คริส เวล (Jake Johnson) ไปเสี่ยงตายกับเหล่ากบฏ แต่ในที่สุด เขาก็ค้นพบกับแหล่งอารยธรรมโบราณแห่งชาวไอยคุปต์ แต่ทว่า มันแปลกมากเพราะจุดที่ค้นพบนั้นมันอยู่ในแถบตะวันออกกลาง

เจนนี่ ฮัลซีย์ (Annabelle Wallis) เจ้าของลายแทงซึ่งได้ตามหาจนพบและได้รู้ว่า ที่นี่นั้นไม่ใช่สุสาน แต่เป็นที่คุมขังอะไรสักอย่าง และมันไม่ใช่ที่คุมขังธรรมดา เพราะเต็มไปด้วยกลไกเพื่อขังบางสิ่งไว้ไม่ให้ออกมา และด้วยความดื้อดึงหรืออะไรก็ตาม

รีวิว The Mummy วับไทย

ทำให้ปิศาจได้สมปรารถนา มัมมี่สาวสุดเซ้กซี่นามว่า อาห์มาเน็ท (Sofia Boutella) ผู้มีความโกรธแค้นในบิดาของตนถึงกับต้องฆ่าทิ้ง นางถูกคุมขังทั้งเป็นในคุกที่ห่างไกลจากอียิปต์ เวลาผ่านมาราวห้าพันปี แต่วันนี้ เธอกำลังหลุดพ้นจากการถูกจองจำ

ในภาคนี้ยังมีอีกตัวละครหนึ่ง เขาคือ ดร.เฮนรี่ (Russell Crowe) เขาเป็นคนที่หมกมุ่นเรื่องการรวบรวมเลห่าปีศาจร้าย และคราวนี้ เขาตั้งใจจะจับปิศาจมัมมี่ตัวนี้ ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ด็อกเตอร์จะต้องมาเจอกับนิคผู้ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมาเล็กๆ กับยัยสาวนักโบราณคดีอย่างเจนนี่ แล้วทั้งหมดจะลงเอยอย่างไรนะ ติดตาม รีวิวหนังน่าสนใจ ของเราได้ทางช่องทางนี้เลยครับ

ความคาดหวังกับเรื่องนี้

ถ้าจะบอกให้เราไม่คาดหวังในหนังเรื่อง มัมมี่ 2017 นี้ก็คงจะไม่มีใครเชื่อ ในฐานะของคนที่เคยเสพเดอะมัมมี่ภาคก่อนเก่ามากหลายครั้ง แต่ก็พบว่า มันไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมเลย ไม่เฉพาะแค่ตัวแสดง แต่เนื้อเรื่องและความสนุกก็ต่างกันพอสมควร

การเขียนเนือ้หาใหม่ กับจักรวาลแห่งความมืด ดูเป็นแนวทางที่จะทำหนังมาเพื่อพระเอกเป็นทอม ครูซ เสียจริงๆ มีกลิ่นของ Mission: Impossible เข้ามาอย่างพอจับได้ มันคือหนังที่ทอม ครูซ ได้เล่นเป็นทหารที่ชอบขุดค้นหาของโบราณแต่ดันไปเจอของแรงเข้า สุดท้าย เขาต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพราะสมบัติที่เขาค้นพบมันกลับเป็นปิศาจผู้รอวันออกมาแก้แค้น

รีวิว The Mummy netflix

และเมื่อมันจะมีการสร้างเป็นจักรวาลปิศาจมันก็ย่อมต้องมีใครสักคนที่คอยเชื่อมระหว่างหนังแต่ละเรื่อง ผมก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่ารัสเซลจะได้เล่นในเรื่องอื่นหรือไม่ แต่ในภาคนี้ บทบาทของเขาค่อนข้างโดดเด่นเลยทีเดียว เพราะเขาคือดอกเตอร์เฮนรี่ผู้ที่มีจิตใจฝักใฝ่กับการเก็บรวบรวมปิศาจด้วยจุดประสงค์บางอย่าง ฝากเพื่อนๆติดตาม รีวิวหนังน่าดู ด้วยนะครับ

เนื้อหาที่แตกต่างจากภาคก่อนๆ

หนัง The Mummy พากย์ไทย ไม่ได้ออกมาในแนวผจญภัยแฟนตาซีแนวจัดความบันเทิงเต็มจินตนาการแบบเวอร์ชั่นก่อนเท่าใดนัก แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่เสียจนไม่ควรเสียเวลาดู เป็นเดอะมัมมี่ที่เนื้อเรื่องสุดบังเอิญ แทรกฮา ทว่าดร็อปช่วงหลัง เป็นเนื้อเรื่องที่ไม่อยากมองให้เป็นจริงเป็นจังไปมากมายนัก เพราะมันจะกลบความสนุกของหนังเสียหมด เรื่องราวของการค้นพบโดยบังเอิญจนนำไปสู่การจับและต่อสู้กับปิศาจที่สั่งสมความแค้นเอาไว้นานเป็นพันปี

ผมพบว่าเรื่องราวช่วงครึ่งแรกนั้นชวนให้พิศวงได้พอควร แม้บางส่วนจะต้องใช้การเล่าด้วยเสียงบรรยายประกอบภาพไปบ้าง แต่ในระหว่างนั้น นิค มอร์ตัน ต้องดิ้นรนหนีตายบนเครื่องบิน กลายเป็นฉากที่ชวนตื่นเต้นได้ไม่น้อย

ขณะเดียวกันก็ชวนนึกไปถึงภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ไปด้วย ในระหว่างทาง เราจะพบว่าหนังมีการแทรกช็อตฮาๆ เอาไว้ให้ขำได้ด้วย บางช่วงก็ชวนสะดุ้งสุดตัวได้อยู่เหมือนกัน แต่แล้วหนังก็ชวนให้นึกถึงเรื่องเก่าๆ ของทอม ครูซ อีกครั้ง วิ่งหนีอลหม่านนี่มันใช่เลย น่าเสียดายที่

รีวิว The Mummy หนังน่าสนใจ

ช่วงครึ่งหลังของหนัง The Mummy สปอย กลับไม่มีอะไรชวนตื่นตาได้อีก เหมือนช่วงเวลาที่เหลือไม่มีอะไรให้ชวนผจญภัยอีกแล้ว หนังหนีห่างจากมนต์เสน่ห์ความเป็นอียิปต์ไปอยู่ในอังกฤษจนไม่รู้สึกถึงความเป็นมัมมี่แบบที่ชอบสักเท่าใดนัก เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรอยากให้คาดเดา หรือแม้แต่อยากจะคาดเดาก็พบว่า บทลงเอยไม่เป็นอะไรที่ชวนอึ้งหรือว้าว ผิดกับช่วงครึ่งแรกของหนังไปเลย

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสไตล์ทอม ครูซ ต้องแอ็คชั่นแน่นอน แต่ตัวละครไม่ชวนอิน ถ้าจะถามว่า ‘เดอะมัมมี่’ ภาคนี้มีอะไรที่โดดเด่น ก็คงจะเป็นฉากแอ็คชั่นสไตล์ที่เราเห็นได้จากหนังแอ็คชั่นทุกๆ เรื่องของ ทอม ครูซ จัดหนักพอสมควรสำหรับคนที่ชื่นชอบแอ็คชั่นสไตล์นั้นๆ แต่สิ่งที่พลาดไปคือเสน่ห์ของเดอะมัมมี่แบบที่เราคุ้นเคย

หนังมีความขี้เล่นชวนคนดูมาฮาอยู่บ้างในช่วงครึ่งแรก ก่อนแทบจะหายไปเลยในครึ่งท้าย ตัวละครอย่างอาห์มาเน็ตถูกเล่าพื้นหลังอย่างเร่งรัด ไม่ชวนให้รู้สึกอยากจะสงสารหรืออยากจะเอาใจช่วย หรือแม้แต่สมน้ำหน้า ขณะที่ตัวละครสองพระนางก็ดูไม่ทำให้ผมรู้สึกโรแมนติกอะไรเลยระหว่างพวกเขา อาจเพราะหนังเองก็ไม่ได้เล่าอะไรไปมากกว่านั้น ไม่มีแบ็คกราวด์มากพอจะทำให้อินไปกับพวกเขาได้

ส่วนตัวละครของรัสเซล โครว์ ที่น่าสนใจที่สุด เพราะออกจะดูหมกมุ่นกับการจับปิศาจ หนังเปิดข้อมูลบางสิ่งที่น่าสงสัยว่าเขาคือตัวอะไรกันแน่ แต่หนังก็ไม่ได้ให้เวลากับการเล่าเรื่องราวเบื้องหลังของเขาขนาดนั้น โดยรวมมันจึงไม่ได้เป็นเดอะมัมมี่ที่คุณต้องดู แต่เป็นหนังที่จำเป็นต้องดูถ้าจะติดตาม Dark Universe ต่อไป

การเอาชีวิตรอดจากมัมมี่อายุหลายพันปี

The Mummy HD ก็เป็นหนังที่ทำออกมาเพื่อเอาใจผู้รับชมมากๆ กับการอัดฉากแอ็คชั่นมาถี่ ๆ แทบทุก 10 นาทีของหนัง ฉากหนีการตามล่าของอาห์มาเน็ต ฉากหนีฝูงมัมมี่ลูกสมุนไล่งับ โดยเฉพาะฉากเครื่องบินตก ถือได้ว่าเป็นฉากที่ตื่นเต้นสุดของหนังแล้ว ฉากนี้ถ่ายกันในสภาพไร้น้ำหนักกันถึง 2 วัน ทีมสตันท์แมนโดนเหวี่ยงจนอาเจียนกันไปหลายคน

หลาย ๆ ครั้งที่เรากำลังได้ลุ้นกับสถานการณ์คับขันของตัวละครหนังก็แทรกมุกเข้ามาเบรค ก็นับว่าเป็นมุกที่ติดนะ ได้เสียงหัวเราะกันแต่ไอ้อารมณ์ที่ลุ้นอยู่เมื่อกี้ ก็หายไปด้วยเช่นกัน แล้วเป็นอย่างนี้กับหลาย ๆ ฉากแอ็คชั่น ซึ่งทำให้โทนหนังโดยรวมของ The Mummy 2017 ค่อนข้างเป็นมัมมี่เวอร์ชั่นอารมณ์ดี บวกกับนี่เป็นการกำกับหนังฟอร์มใหญ่ครั้งแรกของอเล็กซ์ เคิร์ตซแมน

ซึ่งถือว่าคุมงานโปรดัคชั่นได้อยู่ แต่ที่อเล็กซ์ ทำไม่ได้คือการสร้างอาห์มาเน็ตให้เป็นราชินีอียิปต์ที่มีความเกรงขามน่ากลัว ตอนเปิดตัวมามัมมี่แห้ง ๆ ก็เหมือนจะน่ากลัวนะ แต่พอผ่าน ๆ ไป ความน่ากลัวก็เริ่มจะเลือนหายไป ดูแล้วเซ่อ ๆ พลาดท่าบ่อย ๆ เสียด้วยซ้ำ ทั้งที่มีอิทธิฤทธิ์มากมาย เช่นเดียวกับฉากโรแมนซ์ ที่ดูเหมือนผู้กำกับอเล็กซ์ พยายามจะชงอยู่หลายครั้ง ทั้งที่บทก็อำนวยปูทางวีรกรรมเสียสละของนิค มาดีแล้วนะ แต่ก็ยังไปไม่ถึงเช่นกัน

ตัวหนังนั้นก็ใช้ทุนสร้างไประดับหนึ่งคือ 125 ล้าน ซึ่งก็น่าจะหมดไปกับค่าตัว ทอม ครุยส์ กับฉากซีจีนั่นแหละ งานโปรดัคชั่นทำได้ดี สร้างฉากสุสานทั้งในอิรัค และ ลอนดอน ออกมาได้ดูลึกลับเก่าแก่สมจริง ด้วยตัวเลขระดับนี้กับการฉายทั่วโลก น่าจะทำกำไรกลับมาให้ยูนิเวอร์แซลได้สบาย ๆ และน่าจะเปิดทางให้กับ Dark Universe เรื่องถัดไปได้

รีวิว The Mummy ต้องไปลองรับชมกันดูแล้วล่ะ

โดยรวมแล้ว The Mummy 2017 รีวิว เป็นหนังที่มีความสนุกพอตัว บทหนังมีความเวอร์ ๆ มีช่องโหว่อยู่ประปรายในระดับหนังฮอลลีวู้ด แต่ก็ได้ความเพลิดเพลินกับฉากแอ็คชั่นที่อัดมาต่อเนื่องผสมอารมณ์ขันบวกกับงานซีจีอลังการ พายุทรายถล่มกรุงลอนดอน ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากกว่าในตัวอย่างหนังหรอก

แต่ต้องเตือนกันก่อนว่าอย่าคาดหวังอารมณ์สยองขวัญ หรือความน่ากลัวจากเรื่องนี้ก็น่าจะแฮปปี้กับหนังไปได้ หนังจบแบบปูทางต่อถึงอนาคตของตัวละครใน Dark Universe ไว้อย่างเด่นชัด หนังจบแล้วลุกได้เลยนะ ผู้กำกับอเล็กซ์ เคิร์ตซแมน บอกว่าไอ้พวกฉากหลังเอนด์เครดิตไรนั่นนะ มันเป็นไอเดียของมาร์เวล ไม่อยากทำตาม ไม่ต้องรอดูกันนะ

ชื่อภาพยนตร์: The Mummy / เดอะมัมมี่
ผู้กำกับภาพยนตร์: Alex Kurtzman
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: David Koepp (screenplay), Christopher McQuarrie (screenplay)
นักแสดงนำ: Tom Cruise, Sofia Boutella, Annabelle Wallis, Sofia Boutella, Russell Crowe, Jake Johnson
ดนตรีประกอบ: Brian Tyler
ความยาว: 110 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 8 มิถุนายน 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Universal Pictures, Perfect World Pictures, Sean Daniel Company

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *