รีวิว Ma Rainey’s Black Bottom
รีวิว Ma Rainey’s Black Bottom เรื่องย่อ
หนัง ‘Ma Rainey’s Black Bottom’ สร้างจากบทละครชื่อเดียวกันของ ออกัสต์ วิลสัน เมื่อปี 1982 ซึ่งเป็นหนึ่งในละครสิบเรื่องของละครเวทีซีรีส์รางวัลพูลิตเซอร์ ที่เรียกว่า The Pittsburgh Cycle หรือ the American Century Cycle โดยเนื้อหาว่าด้วยชีวิตคนแอฟริกันอเมริกันในแต่ละทศวรรษตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 หนึ่งในละครเวทีชุดนี้ที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ก็คือ ‘Fences’ ที่นำแสดงโดยเดวิสและเดนเซล วอชิงตัน ผู้อำนวยการสร้างหนังทั้งสองเรื่อง แล้วในละครเวทีชุดนี้ มีมา เรนีย์ เท่านั้นที่มีตัวตนจริง ๆ ในโลกใบนี้ดูหนังออนไลน์
มา เรนีย์ ตัวจริงก็เหมือนเดวิส เธอคือผู้สร้างความบันเทิง แต่ด้วยเสียงเพลงที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์อย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนจะเป็นที่รู้จักอย่างที่รู้กัน เธอคือ เกอร์ทรูด เมลิสสา นิกซ์ พริดเก็ตต์ ลูกสาวของแม่-เอลลา (Ella) และพ่อ-โธมัส (Thomas) ที่ลืมตาดูโลกในรัฐทางใต้ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกบันทึกว่าเป็นวันหนึ่งในเดือนกันยายน 1882 ที่อะลาบามา แต่เจ้าตัวแย้งว่า เป็นวันที่ 26 เมษายน 1886 ที่โคลัมบัส, จอร์เจีย ต่างหาก ซึ่งเป็นช่วงที่มีการใช้ กฏหมายจิม โครว์ (Jim Crow Law – กฎหมายที่ใช้ในรัฐทางใต้ของสหรัฐฯ ช่วงปี 1877 – กลางยุค 1960 ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติระหว่างคนผิวขาวและผิวดำ)ดูหนังฟรี
รีวิวหนังใหม่ชนโรงเกอร์ทรูดเดินทางไปกับคณะแสดง ที่จิโอวานนี รัสโซเนลโล นักวิจารณ์ดนตรีแจซของ The New York Times เรียกว่า เป็น “การแสดงคล้ายๆ กับคาบาเรต์ ที่พัฒนามาจากการแสดงช่วงกลางกลางยุค 1800s เพื่อผู้ชมผิวขาว” ตั้งแต่อายุแค่ 14 ปี
โดยใช้ชื่อ เกอร์ทรูด พริดเก็ตต์ และการเดินทางไปเล่นที่มิสซูรี ในปี 1902 ก็ทำให้เธอได้พบดนตรีบลูส์เป็นครั้งแรก เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งเล่นกีตาร์ ร้องเพลงเศร้าถึงคนรักที่หายไป
ด้วยท่วงทำนองที่น่าลุ่มหลงและพลิกผันไปมา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับเกอร์ทรูด เธอหลงใหลในดนตรีที่เศร้าสร้อย และเริ่มร้องเพลงเดียวกันกับที่ได้ยินในช่วงอองกอร์ (Encore) ของการแสดงตัวเอง จากที่ Encyclopedia.com บันทึกเอาไว้ มาอ้างด้วยว่า
เธอเป็นคนที่ใช้คำว่า ‘บลูส์’ โดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อถูกถามว่า เพลงที่ร้องเป็นเพลงแบบไหน เธอตอบว่า “บลูส์”
ปี 1904 เกอร์ทรูดในวัย 18 ปีที่เริ่มเล่นเพลงของตัวเองแล้ว แต่งงานกับ วิลเลียม ‘ปา’ เรนีย์ (William ‘Pa’ Rainey) ซึ่งทำให้เธอถูกเรียกว่า มา ทั้งคู่เข้าร่วมคณะ แร็บบิต ฟูค คัมพะนี (Rabbit Foot Company) ของ แพ็ท แช็ปเพลล์ (Pat Chappelle)
ที่ออกทัวร์ทางตอนใต้ของอเมริกาในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 และขึ้นแสดงร่วมกันโดยใช้ชื่อ มาแอนด์ปา เรนีย์ – ดิ แอสแซสซิเนชัน ออฟ เดอะ บลูส์ (Ma and Pa Rainey, the Assassinators of the Blues)
ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของอีกหนึ่งตำนานบลูส์ เบสซี สมิธ (Bessie Smith) เมื่อมาจ้างเด็กสาววัย 14 ปีเป็นแดนเซอร์ในคณะ สมิธได้รับการดูแลอย่างดีจากมา และมีโอกาสร่วมงานกัน โดยในยุค 20s – 30s สมิธได้ฉายาว่า ‘ราชินีเพลงบลูส์’ และเรื่องราวของทั้งคู่ถูกนำเสนอใน Bessie หนังของผู้กำกับ ดี รีส (Dee Rees) เมื่อปี 2015 ซึ่งโม’นิกว์ (Mo’Nique) เล่นเป็นมา และควีน ลาติฟาห์ (Queen Latifah) รับบทเบสซี สมิธ
มาแยกทางกับวิลเลียมในปี 1916 แล้วตั้งคณะของตัวเอง มาดาม เกอร์ทรูด มา เรนีย์ แอนด์ เฮอร์ จอร์เจีย สมาร์ต เซ็ต ความนิยมที่มีต่อเธอเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนปี 1923 มาก็เป็นหนึ่งในศิลปินผิวดำรายแรก ๆ ที่ได้เซ็นสัญญากับบริษัทพาราเมาต์ หลังถูกพบโดยโปรดิวเซอร์ – เจ. มาโย วิลเลียมส์
เธอได้บันทึกเสียงเพลงเป็นครั้งแรก และในเวลาแค่เดือนเดียว มาบันทึกเสียงเพลงถึง 8 เพลง รวมแล้วในช่วงห้าปีแรกเธออัดเสียงเพลงไปร้อยกว่าเพลง ที่ส่วนหนึ่งก็คือเพลงดัง ๆ อย่าง “Moonshine Blues”, “See See Rider” และ “Trust No Man” ซึ่งทำให้เพลงบลูส์เป็นดนตรีกระแสหลัก และมากลายเป็นคนดัง
บทบาทสำคัญที่ทำให้มาได้รับการรำลึกถึงจนทุกวันนี้ ก็คือการสร้างวิวัฒนาการให้กับดนตรีบลูส์ เพราะนอกจากเป็นหนึ่งในศิลปินรุ่นแรก ๆ ที่ได้บันทึกเสียงงานของตัวเอง มายังสร้างเทคนิคการร้องเพลงที่มีลักษณะเฉพาะตัว ด้วยการร้องราวกับการคร่ำครวญ เต็มไปด้วยอารมณ์จากเบื้องลึก
และจากที่ เดอ ลา ครัวซ์ ตั้งข้อสังเกต มาเป็นนักร้องหญิงรายแรกก็ว่าได้ ที่ ‘ขัดเกลา’ เสียงให้สวยน้อยมาก คล้าย ๆ กับนักร้องเพลงบลูส์ชาย ซึ่งเป็นสิ่งที่นักร้องเพลงบลูส์รุ่นหลัง ๆ ใช้เป็นต้นแบบ ทั้งเจนิส จอปลิน และ บอนนี เรต
ก็น่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากมา การแสดงบนเวทีที่ผสมผสานการแสดงหลากหลายรูปแบบ ที่เธอได้พบเห็นในตอนออกทัวร์ ก็สะกดผู้ชมได้อยู่หมัด ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ทำให้มาได้ฉายา ‘เจ้าแม่เพลงบลูส์’
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Ma Rainey’s Black Bottom
ประเภท: ดราม่า / เพลง
ผู้กำกับ: จอร์จ ซี. วูล์ฟ
นำแสดงโดย: ไวโอลา เดวิส, แชดวิก โบสแมน
ความยาว: 94 นาที
เข้าฉาย: 18 ธันวาคม 2020 (เน็ตฟลิกซ์)